1. การยุบพรรคไม่ใช่คดีความธรรมดา
แต่เป็นข้อพิพาททางการเมืองที่เต็มไปด้วยความเป็นการเมือง
ในกรณีประชาธิปัตย์ ฟังคำร้องของฝ่ายที่ต้องการให้ยุบพรรคแล้ว
ก็เห็นได้ชัดว่าเหตุผลมันอ่อนมาก
บางเรื่องก็เป็นเรื่องค่านิยมหรือความคิดทางการเมืองที่แตกต่างกัน
ไม่น่าเอามาฟ้องกันได้ด้วยซ้ำ เช่นการใช้คำว่า “ระบอบทักษิณ”
ก็กลายเป็นเหตุให้ฟ้องกันได้ จนเหมือนกับเขียนอะไรมาก็ได้ ขอให้ได้ฟ้องเท่านั้น
ตุลาการรัฐธรรมนูญไม่ได้แสดงหลักฐานว่าพรรคในฐานะ องค์กร มีความผิดตรงไหน
รวมทั้งไม่ได้แสดงให้เห็นว่าพรรคในฐานะองค์กรมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้อย่างไร
ตุลาการก็ถือว่าพรรคในฐานะ องค์กร มีความผิด
ต่อไปก็ต้องลงโทษนายทหารหรือข้าราชการทุกคน
ที่อยู่ในหน่วยเดียวกับผู้บังคับบัญชาที่คดโกงงบประมาณของรัฐไปด้วย
เพราะอยู่ในองค์กรเดียวกัน จึงน่าสงสัยว่าจะได้ประโยชน์ร่วมกัน
2. การยุบพรรคเป็นการกระทำทางการเมืองที่ทำให้ระบบพรรคการเมืองอ่อนแอลง
องค์กรทางกฎหมายที่มาจากการรัฐประหารกลับโจมตีพรรคการเมืองว่าไม่เป็นประชาธิปไตย
ทั้งที่ฝ่ายหนึ่งมาจากการเลือกตั้งของคนสิบกว่าล้าน
ส่วนอีกฝ่ายมาจากการแต่งตั้งของคนหยิบมือเดียว
มักคิดกันว่าการยุบไทยรักไทยจะทำให้ประชาธิปัตย์เข้มแข็งขึ้น
เหตุผลคือการปราศจากคู่แข่งขันที่เข้มแข็งจะทำให้ประชาธิปัตย์ไม่สนใจการปฏิรูปพรรคอีกต่อไป
การยุบพรรคมีส่วนอย่างมากในการทำให้ระบบพรรคการเมืองอ่อนแอลง
เพราะเมื่อพรรคอันดับใหญ่สุดถูกทำลายลงไป
ขณะที่พรรคอันดับรองลงมาไม่ได้มีความเข้มแข็งมากนัก
การเลือกตั้งก็ย่อมปราศจากความหมาย
การเลือกตั้งก็ย่อมปราศจากความหมาย
เป็นการเปิดประตูให้อำนาจเหนือระบบก้าวก่าย
และบงการอำนาจการเมืองในระบบได้มากกว่าที่ผ่านมา
3. เหตุผลในการยุบพรรคไทยรักไทยอีกข้อคือการทำลายประชาธิปไตย
ฝ่ายไทยรักไทยแย้งว่าตนเองไม่ได้ทำลายประชาธิปไตย
แต่เป็นอำนาจนอกรัฐธรรมนูญอย่างการปฏิวัติรัฐประหาร
และล้มล้างรัฐธรรมนูญด้วยกำลังทหารที่ทำลายประชาธิปไตยยิ่งกว่า
3. เหตุผลในการยุบพรรคไทยรักไทยอีกข้อคือการทำลายประชาธิปไตย
ฝ่ายไทยรักไทยแย้งว่าตนเองไม่ได้ทำลายประชาธิปไตย
แต่เป็นอำนาจนอกรัฐธรรมนูญอย่างการปฏิวัติรัฐประหาร
และล้มล้างรัฐธรรมนูญด้วยกำลังทหารที่ทำลายประชาธิปไตยยิ่งกว่า
4. ศาลรัฐธรรมนูญมีหน้าที่เพื่อชี้ขาดข้อขัดแย้งในกฎหมายรัฐธรรมนูญ
ที่สำคัญก็คือ เป้าหมายของศาลรัฐธรรมนูญได้แก่การรักษาเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ
ป้องกันไม่ให้คนกลุ่มหนึ่งกลุ่มใดแอบอ้างหรือตีความรัฐธรรมนูญไปอย่างบิดเบี้ยว
หรือพูดอีกอย่างก็คือศาลรัฐธรรมนูญมีหน้าที่เป็นผู้พิทักษ์รัฐธรรมนูญ
พบว่าคำตัดสินยุบพรรคไม่ได้วางอยู่บนหลักกฎหมาย
หรือเจตนารมณ์ในการพิทักษ์หลักการของรัฐธรรมนูญประชาธิปไตยอย่างเคร่งครัด
หากกลับถูกผลักดันด้วยทรรศนะคติและค่านิยมความเชื่อทางการเมืองที่มีลักษณะอนุรักษ์นิยม
ปฏิเสธการพัฒนาการเมืองไปข้างหน้า และไม่เชื่อมั่นในระบบประชาธิปไตยรัฐสภา
คำตัดสินนี้อัดแน่นไปด้วยความคิดทางการเมือง
ที่ถูกใช้เป็นอาวุธในการโจมตีการปกครองแบบประชาธิปไตยรัฐสภา
คำตัดสินยุบพรรคคือการรัฐประหารซ้ำ
เพื่อตอกย้ำให้ผลทางการเมืองที่เกิดขึ้นหลัง 19 กันยายนทวีความมั่นคงขึ้น
เกิดความไม่พอใจและความวุ่นวายทางการเมืองที่จะตามมาในเวลาอันใกล้
สภาวะของความไร้เสถียรภาพ, ความหวาดกลัว, และความกังวล
อันเนื่องมาจากความไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรในอนาคต
จะดึงสังคมไทยไปสู่ทิศทางที่เลวร้ายกว่าที่ผ่านมา
ที่สำคัญก็คือ เป้าหมายของศาลรัฐธรรมนูญได้แก่การรักษาเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ
ป้องกันไม่ให้คนกลุ่มหนึ่งกลุ่มใดแอบอ้างหรือตีความรัฐธรรมนูญไปอย่างบิดเบี้ยว
หรือพูดอีกอย่างก็คือศาลรัฐธรรมนูญมีหน้าที่เป็นผู้พิทักษ์รัฐธรรมนูญ
พบว่าคำตัดสินยุบพรรคไม่ได้วางอยู่บนหลักกฎหมาย
หรือเจตนารมณ์ในการพิทักษ์หลักการของรัฐธรรมนูญประชาธิปไตยอย่างเคร่งครัด
หากกลับถูกผลักดันด้วยทรรศนะคติและค่านิยมความเชื่อทางการเมืองที่มีลักษณะอนุรักษ์นิยม
ปฏิเสธการพัฒนาการเมืองไปข้างหน้า และไม่เชื่อมั่นในระบบประชาธิปไตยรัฐสภา
คำตัดสินนี้อัดแน่นไปด้วยความคิดทางการเมือง
ที่ถูกใช้เป็นอาวุธในการโจมตีการปกครองแบบประชาธิปไตยรัฐสภา
คำตัดสินยุบพรรคคือการรัฐประหารซ้ำ
เพื่อตอกย้ำให้ผลทางการเมืองที่เกิดขึ้นหลัง 19 กันยายนทวีความมั่นคงขึ้น
เกิดความไม่พอใจและความวุ่นวายทางการเมืองที่จะตามมาในเวลาอันใกล้
สภาวะของความไร้เสถียรภาพ, ความหวาดกลัว, และความกังวล
อันเนื่องมาจากความไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรในอนาคต
จะดึงสังคมไทยไปสู่ทิศทางที่เลวร้ายกว่าที่ผ่านมา